15 ก.ย.
บรรดาผักสมุนไพรที่มีฤทธิ์เด่น ๆ เห็นชัดก็มี กุยช่าย นี่แหล่ะ! ที่เห็นผลทันตา ให้ลองกินกุยช่ายสดๆ คู่กับผัดไทยดูบ้าง จะรู้สึกว่ากระฉับกระเฉงขึ้นมาทันตา เลือดลมสูบฉีด แต่เสียอย่างเดียว คือปากอาจจะเหม็นด้วยกลิ่นอันรุนแรงของกุยช่ายบ้าง ถึงขนาดว่าเข้าบทพระนางกับเขาไม่ได้ซะงั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็อาจเป็นเพราะกุยช่ายนั้นมีสารพวกกำมะถัน เลยทำให้มีกลิ่นแรงไปหน่อย แต่ก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้บางชนิดเช่นกัน
ที่สำคัญ กุยช่าย ยังมี สารพวกไกลโคไซด์ ที่ ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท และช่วยขยายหลอดเลือดได้อีกด้วย กุยช่าย นอกจากจะมีสรรพคุณทางสมุนไพรแล้วยังอุดมด้วยสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายอีกมากมาย
หมอยาจีนเขาจะใช้ใบกุยช่ายที่ส่วนมากจะให้เอามาต้มกินน้ำแกง หรือเอามาผัดก็ได้ ซึ่งจะช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับเม็ดเลือดและประสาท โรคติดเชื้อ และรักษาปัสสาวะเป็นเลือด รวมทั้งสามารถช่วยให้คนที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงง่าย เหนื่อยง่าย คนป่วย คนอายุมาก หรือคนที่มีอาการกามตายด้านให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้ อีกทั้งยังช่วยขับประจำเดือน ขับลม หรือถ้าบวมช้ำภายนอกมีเลือดคลั่ง ก็ให้เอาใบกุยช่ายมาตำ แล้วนำมาประคบ
สำหรับคนเป็นริดสีดวงทวาร เขาให้ต้มใบกุยช่ายกับน้ำร้อนใส่อ่าง แล้วนั่งคร่อมให้ไอระเหยโดนหัวริดสีดวงทวารจะยุบได้ แต่อย่าลืมเผลอแหย่อะไรลงไปในน้ำร้อนล่ะ จะพาลหดหมดนั่น
กุยช่าย ผักกลิ่นหอมที่สามารถกินสด ๆ เป็นเครื่องเคียง และนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดกุยช่าย ขนมกุยช่าย หรือกุยช่ายทอด แต่รู้หรือไม่ว่า กุยช่ายยังถูกนำมาใช้เพื่อสรรพคุณทางยามาแต่โบราณกาลด้วย เช่น เพิ่มความต้องการทางเพศ ป้องกันโรคหลอดเลือด รักษาเบาหวาน บำรุงตับ เป็นต้น
หลายคนมักสับสนระหว่างกุยช่ายกับต้นหอม เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ใบกุยช่ายจะมีลักษณะแบนกว่า และมีดอกเล็ก ๆ สีขาวอยู่ตรงปลาย ซึ่งสามารถนำไปกินได้เช่นกัน
กุยช่ายเป็นพืชที่มีไขมันและน้ำตาลต่ำ ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ
วิตามินเอ มีส่วนสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโต
วิตามินซี จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอภายในร่างกาย
วิตามินเค ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันภาวะมีเลือดออกได้ง่าย
แมงกานีส ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท
โพแทสเซียม ช่วยในการรักษาระดับความดันโลหิต
แมกนีเซียม จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ หัวใจ ระบบประสาท และช่วยให้กระดูกแข็งแรง
กากใยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย ช่วยป้องกันปัญหาท้องผูก
แม้สรรพคุณทางยาของกุยช่ายจะเป็นที่กล่าวถึงตามตำรับยาจีน และถูกนำมาใช้บำรุงสุขภาพตั้งแต่ยุคโรมันโบราณ แต่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพืชชนิดนี้ในปัจจุบันก็ยังมีจำนวนน้อย โดยคุณประโยชน์ของกุยช่ายที่พอจะมีการพิสูจน์ให้เห็น
เพิ่มความต้องการทางเพศ ตามตำรับยาจีน กุยช่ายถูกใช้เพื่อเสริมความต้องการทางเพศและรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งในช่วงหลังมานี้มีงานวิจัยบางส่วนที่กล่าวสนับสนุนว่ากุยช่ายอาจมีคุณสมบัติด้านนี้จริง
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งทดลองให้หนูตัวผู้กินสารสกัดจากเมล็ดกุยช่าย ผลลัพธ์พบว่าสารสกัดดังกล่าวช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศได้ทั้งหนูที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศและหนูที่มีสมรรถภาพทางเพศเป็นปกติ เช่นเดียวกับการทดลองอีกชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ที่พบว่าหนูตัวผู้และตัวเมียที่กินสารสกัดจากกุยช่ายมีความตื่นตัวทางเพศมากขึ้น
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าสารสกัดจากกุยช่ายอาจเป็นตัวเลือกทางธรรมชาติที่มีประโยชน์และปลอดภัยต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีกมาก เนื่องจากงานวิจัยที่มีในปัจจุบันล้วนทดสอบกับหนูทดลอง และยังไม่อาจยืนยันได้ว่าหากนำมาใช้กับคนจะให้ผลลัพธ์ในแบบเดียวกัน
ป้องกันโรคหลอดเลือด นักวิจัยสันนิษฐานว่ากุยช่ายอาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และมีประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนโลหิต เนื่องจากมีการศึกษาในหลอดทดลองโดยใช้สารสกัดกุยช่ายหยดลงบนเซลล์หลอดเลือดที่ทำงานผิดปกติ พบว่าสารสกัดกุยช่ายมีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบที่เกิดจากโรคหลอดเลือด และอาจช่วยป้องกัน โรคหลอดเลือดแดงแข็งในระยะเริ่มต้นได้ ทว่างานวิจัยนี้ไม่ได้ให้ผู้ป่วยโรคนี้กินสารสกัดดังกล่าวโดยตรง จึงยากจะยืนยันได้ว่ากุยช่ายมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจริงหากนำไปใช้กับคน
ต้านเบาหวานและภาวะพิษต่อตับ สรรพคุณต่อสุขภาพอีกหนึ่งอย่างของกุยช่ายที่มีงานวิจัยค้นพบ คือ อาจช่วยต้านโรคเบาหวานและภาวะพิษต่อตับ โดยนักวิจัยคาดว่าอาจเป็นผลมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของกุยช่าย แต่งานวิจัยดังกล่าวทดลองกับหนูที่เป็นเบาหวาน จึงยังไม่อาจให้ข้อสรุปที่แน่ชัดได้จนกว่าจะมีการค้นคว้าและผลการทดลองที่น่าเชื่อถือต่อไปในอนาคต
ข้อควรระวังในการใช้กุยช่ายเพื่อประโยชน์ทางการรักษา
การกินกุยช่าย ในปริมาณของอาหารทั่วไปในชีวิตประจำวันนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่หากกินมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้ ส่วนหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่ต้องให้นมบุตรก็กินผักชนิดนี้ได้ตามปกติ ทว่าควรหลีกเลี่ยงการกินในปริมาณที่มากเกินไปหรือการใช้เป็นยา เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันความปลอดภัยได้อย่างแน่ชัดหากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการรักษา และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอหากต้องการทดลองใช้กุยช่ายเพื่อรักษาโรคหรือบำรุงสุขภาพ
Proudly powered byWordPress. Theme byWeblizar.