9 ก.ย.
โรคเบาหวาน เป็นหนึ่งในโรคอันตราย อาการโรคเบาหวาน อาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิต รวมถึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกทุกข์ทรมานจากอาการที่เกิดขึ้น อาการโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นอาจเหมือนหรือแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด นอกจากนี้ ยังมีอาการจากภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยได้ไม่น้อย ซึ่งหากผู้ป่วยละเลยการรักษาและการดูแลตนเอง อาการโรคเบาหวานอาจรุนแรงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนอีกด้วย
โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ภาวะดื้ออินซูลิน หรือ มีฮอร์โมนอื่นออกฤทธิ์ต้านอินซูลิน ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินนี้มีหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลิน ผลิตได้น้อย หรือทำงานไม่ได้เต็มที่ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการของโรคเบาหวานขึ้น
อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดนั้นมีความคล้ายคลึงและแตกต่างกันตามแต่ละชนิด ดังนี้
การป้องกันก่อนเกิดโรคถือเป็นหัวใจสำคัญ แม้ว่าโรคเบาหวานชนิดอื่น ๆ จะไม่สามารถป้องกันได้ แต่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นอาจป้องกันได้ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ออกกำลังกาย ส่วนผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายอื่น ๆ นอกจากนี้ หากมีอาการใด ๆ ที่คาดว่าอาจเป็นอาการของโรคควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
ทำความรู้จักชนิดของเบาหวาน
โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ
เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากการขาดอินซูลิน เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้เลย (อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน ทำหน้าที่ช่วยนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำรงชีวิต) เบาหวานชนิดนี้มักพบในเด็กและผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี
เบาหวานชนิดที่ 2 พบมากในคนส่วนใหญ่ เกิดจากการที่เซลล์ของร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีหรือที่เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายเหมือนขาดอินซูลินไประดับหนึ่ง ร่างกายต้องทดแทนโดยการสร้างอินซูลินออกมามากขึ้น จนตับอ่อนทำงานมากขึ้นจนทำงานไม่ไหวถ้าไม่ช่วยแก้ไข นอกจากนี้ตับอ่อนของผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ยังสร้างอินซูลินได้ไม่มากเท่าคนปกติด้วย จึงมีระดับอินซูลินที่ไม่พอเพียงแก่ความต้องการ สาเหตุของภาวะดื้ออินซูลิน ได้แก่ พันธุกรรม ความอ้วน และการไม่ออกกำลังกาย ดังนั้น หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ร่วมกับมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก็จะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้มากขึ้น
เบาหวานชนิดที่ 3 เป็นเบาหวานชนิดที่มีสาเหตุชัดเจน เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ ตับอ่อนถูกตัด โรคที่มีเหล็กสะสมมากเกินไปในตับจนทำให้ตับเสียหาย การรับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ การได้รับสารเคมี ความผิดปกติของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
เบาหวานชนิดที่ 4 เป็นเบาหวานที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ มักเกิดในผู้ที่ไม่มีประวัติเป็นเบาหวานมาก่อนตั้งครรภ์ เมื่อคลอดแล้วเบาหวานก็จะหายไป แต่คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นเบาหวานได้อีกในอนาคต
อาการของโรคเบาหวาน
ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน
หิวน้ำบ่อย
หิวบ่อย รับประทานจุ แต่น้ำหนักลด
ผิวแห้ง
เป็นแผลแล้วหายยาก
ตาพร่ามัว
ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า
หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น อย่ารอช้า ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที อย่างไรก็ดี ไม่ควรรอจนอาการต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น เพราะบางครั้งกว่าจะเกิดอาการเหล่านี้ ระดับน้ำตาลในเลือดก็อาจสูงเกินไปแล้ว ทางที่ดีควรหมั่นตรวจสุขภาพและตรวจเช็กระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีญาติสายตรง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่เคยมีประวัติความทนต่อน้ำตาลบกพร่องหรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
Proudly powered byWordPress. Theme byWeblizar.